เคยไหม? รู้สึกเหนื่อยโดยไม่มีเหตุผล สมองมึนงง หงุดหงิดง่าย ใจเต้นเร็วโดยไม่มีเหตุอะไร หรือบางวันแค่ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่าโลกมันหนักไปหมด ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่เรื่องของ “ใจ” เพียงอย่างเดียว แต่อาจเริ่มต้นที่ “ระบบประสาท” ซึ่งเป็นกลไกเบื้องหลังความสมดุลของชีวิตเราในทุกลมหายใจ

หลายคนที่เริ่มฝึกโยคะ มักจะเข้ามาเพราะอยากยืดเส้น อยากแข็งแรง แต่เมื่อฝึกไปสักพักจะเริ่มพบว่า “สิ่งที่เปลี่ยนมากที่สุด” คือความรู้สึกภายใน เป็นความสงบ เป็นความชัดเจน และเป็นการกลับมารู้จักตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับระบบประสาทอย่างเข้าใจง่ายๆ และดูว่าโยคะช่วยดูแลระบบนี้ได้อย่างไร

.

ระบบประสาทเกี่ยวอะไรกับการฝึกโยคะ? แล้วการนั่งนิ่งๆ หายใจลึกๆ หรือยืดตัวช้าๆ จะช่วยฟื้นฟูระบบประสาทได้จริงหรือ?

แท้จริงแล้ว โยคะไม่ใช่แค่การฝึกกายเท่านั้น แต่คือการฝึกให้ “ระบบภายในทั้งหมด” กลับมาทำงานอย่างประสานกันอีกครั้ง โดยเฉพาะระบบประสาท ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพทั้งกายและใจ

.

ระบบประสาทของเราประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก

1.ระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System: CNS) ประกอบด้วยสมองและไขสันหลัง เป็นศูนย์บัญชาการหลักของร่างกาย

2.ระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nervous System: PNS) เป็นเครือข่ายของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณระหว่างสมอง ไขสันหลัง และส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ในระบบประสาทส่วนปลาย ยังแบ่งย่อยเป็น

2.1ระบบประสาทซอมาติก (Somatic Nervous System) ควบคุมการเคลื่อนไหวที่เป็นจิตสำนึก (Voluntary Movements) เชื่อมโยงระหว่าง CNS กับกล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscles)

2.2ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System: ANS) ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในที่ไม่อยู่ในจิตสำนึก (Involuntary Functions) แบ่งเป็นสองส่วนย่อยคือ

-ระบบพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ทำหน้าที่ผ่อนคลาย พักฟื้น ฟื้นฟูร่างกาย (เรียกง่ายๆ ว่าระบบ “พักและซ่อม”)

-ระบบซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) ทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมรับมือกับอันตราย (ระบบ “สู้หรือหนี”)

ในชีวิตประจำวันของเรายุคนี้ ระบบซิมพาเทติกมักถูกกระตุ้นมากเกินไป เสียงโทรศัพท์ การจราจร การเร่งรีบ ความเครียดจากงาน และหน้าจอที่ไม่หยุดสว่าง ทั้งหมดนี้ทำให้ระบบพาราซิมพาเทติกทำงานน้อยลง เราจึงรู้สึกเหนื่อย หงุดหงิด อ่อนล้า และป่วยง่าย



โยคะช่วยปรับสมดุลระบบประสาทได้อย่างไร?

1.การหายใจ (Pranayama) หัวใจของโยคะอยู่ที่การหายใจอย่างรู้ตัว การหายใจลึก ยาว และเป็นจังหวะ จะช่วยกระตุ้นระบบพาราซิมพาเทติก ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย ลดความดันโลหิต และชะลอการเต้นของหัวใจ

2.การฝึกอาสนะ (Asana) ท่าโยคะที่ออกแบบมาอย่างสมดุล เช่น ท่าเด็ก (Child’s Pose), ท่าสะพาน (Bridge), หรือท่าศพ (Savasana) ล้วนช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เส้นประสาทผ่อนคลาย ระบบประสาทรับรู้ถึงความปลอดภัย

3.การฝึกสมาธิ (Meditation) การฝึกจิตให้สงบ เป็นเหมือนการพักผ่อนให้ระบบประสาทส่วนกลาง สมองที่ตึงเครียดได้หยุดคิด ได้ฟื้นตัว เพิ่มคลื่นสมองแบบอัลฟา (alpha waves) ที่เกี่ยวข้องกับความผ่อนคลายและการมีสมาธิ

4.การกลับมาเชื่อมโยงกับตัวเอง (Self-awareness) โยคะช่วยให้เรารับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในตัวเอง ทั้งร่างกายและอารมณ์แบบไม่ตัดสิน เป็นการฝึกระบบประสาทให้สามารถ “อยู่กับปัจจุบัน” ได้อย่างสงบและมั่นคง

.

ระบบประสาทของเรา คือสายใยที่เชื่อมโยงทุกอวัยวะ ทุกความคิด และทุกอารมณ์ โยคะคือเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้ระบบประสาทกลับมามีชีวิตชีวา คุณจะไม่เพียงแค่รู้สึกดีขึ้น แต่จะเป็น คนที่มีพลัง มีสติ และมีความสุขในแบบที่ยั่งยืน

ครูหลง😄
Renew Studio