
บางครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อย ทั้งที่ไม่ได้ใช้แรงกายมากนัก เพราะสิ่งที่เหนื่อย…ไม่ใช่แค่ร่างกาย
แต่คือ “ใจที่ไม่เคยหยุดรับสิ่งกระตุ้นจากภายนอก” เสียงแจ้งเตือนจากมือถือ ภาพจากโซเชียล ข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดพัก
โลกภายนอกดึงดูดความสนใจของเราตลอดเวลา จนบางทีเราลืมไปว่า “เรามีสิทธิ์เลือก” ว่าจะเปิดรับหรือปิดรับสิ่งเหล่านั้นหรือไม่
.
ในโยคะ เรียกการฝึกที่ช่วย “ดึงประสาทสัมผัสกลับสู่ภายใน” นี้ว่า ปรัตยาหาระ (Pratyahara) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในเส้นทางแห่งโยคะทั้งแปดขั้น (Ashtanga Yoga) เป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างการฝึกทางกาย กับการฝึกทางจิต
หากอาสนะช่วยให้ร่างกายเข้มแข็ง และปราณายามะช่วยให้ลมหายใจสงบ
ปรัตยาหาระ…คือการให้ใจได้พัก จากสิ่งเร้าทั้งหลาย เพื่อกลับมาได้ยินเสียงภายในของตัวเองอีกครั้ง
.
คำว่า “ปรัตยาหาระ” (Pratyahara) มาจากภาษาสันสกฤต
“Prati” แปลว่า ย้อนกลับ, หันกลับมา
และ “Ahara” แปลว่า สิ่งที่เรานำเข้ามา เช่น อาหาร หรือสิ่งกระตุ้นจากประสาทสัมผัสทั้งห้า
ดังนั้น Pratyahara จึงหมายถึง “การดึงการรับรู้กลับจากสิ่งภายนอก” หรือ “การควบคุมประสาทสัมผัส”
.
ในโยคะสูตรของพระปตัญชลี (Patanjali Yoga Sutra) มีคำอธิบายไว้ว่า “ปรัตยาหาระ คือ การที่ประสาทสัมผัสไม่วิ่งออกไปยังวัตถุภายนอก แต่หันกลับเข้าสู่จิต”
นี่ไม่ใช่การปิดหู ปิดตา หรือหนีโลก แต่เป็นการฝึกให้ “ใจไม่ถูกรบกวนโดยสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน” เรายังมอง ยังฟัง ยังรู้สึกได้เหมือนเดิม
แต่มี “ระยะห่างภายใน” ระหว่างเรากับสิ่งเร้าเหล่านั้น เราแค่รับรู้ แล้วปล่อยผ่าน นี่คือสภาวะของปรัตยาหาระ ที่โยคะเรียกว่า “ใจที่กลับมาอยู่กับตัวเอง”
.
ในมุมของระบบประสาท ปรัตยาหาระยังสัมพันธ์กับการทำงานของ ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อน (Rest & Digest)
เมื่อเราดึงประสาทสัมผัสกลับสู่ภายใน หัวใจจะเต้นช้าลง กล้ามเนื้อคลายตัว และสมองลดคลื่นเบต้า (Beta waves) ที่สัมพันธ์กับความเครียด — นี่คือ “โยคะของการพักใจ” อย่างแท้จริง
ในทางปฏิบัติ ปรัตยาหาระไม่ใช่สิ่งที่ต้องนั่งหลับตาเสมอไป แต่มันเริ่มจากการ “สังเกต” และ “รู้เท่าทัน” การรับรู้ของตัวเองในแต่ละวัน
1. ลดสิ่งเร้า เพื่อเพิ่มความรู้สึกตัว
ลองสังเกตว่าในหนึ่งวันเรามีสิ่งกระตุ้นมากแค่ไหน แสงจากจอมือถือ เสียงเพลงที่เปิดค้างไว้ กลิ่นกาแฟ เสียงข้อความแจ้งเตือน — สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดคือ “อาหารของประสาทสัมผัส” การฝึกปรัตยาหาระเริ่มจากการ “ลดปริมาณสิ่งเร้าที่ไม่จำเป็น” เช่น ปิดเสียงแจ้งเตือนชั่วคราว ตั้งเวลาไม่ดูโซเชียลหลังตื่นนอน ใช้เวลาเงียบ ๆ 5 นาทีระหว่างวัน สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้คือการฝึก “ถอนใจออกจากสิ่งเร้า” เพื่อให้สมองและประสาทได้พักจริง ๆ
2. ฝึกฟังลมหายใจ แทนเสียงรบกวน
ในขณะฝึกโยคะ ลองหลับตาและฟังเสียงลมหายใจของตัวเอง นี่คือการดึงประสาทการฟัง (hearing sense) กลับมาภายใน เมื่อเราฟังลมหายใจ เราจะเริ่มรู้สึกถึงจังหวะ ความละเอียด และการเปลี่ยนแปลงภายในกาย นี่คือจุดเริ่มต้นของสมาธิอย่างนุ่มนวลโดยไม่ต้อง “พยายามให้สงบ”
3. ฝึกอยู่กับการรับรู้แบบหนึ่งอย่าง
ตัวอย่างเช่น การอยู่กับการสัมผัสของฝ่าเท้าบนพื้น หรือการเคลื่อนไหวของร่างกายในท่าโยคะ เรายังรับรู้เสียงรอบตัว แต่ไม่ปล่อยให้มันพาใจออกไป เมื่อใจเริ่มอยู่กับประสบการณ์ตรงหน้า มากขึ้น เราจะเริ่มรู้จัก “ช่องว่างระหว่างสิ่งเร้า กับการตอบสนอง” ซึ่งตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้นของความสงบภายใน
4. ฝึกจากการกิน การเดิน หรือกิจวัตรประจำวัน
ปรัตยาหาระไม่จำกัดอยู่ในห้องโยคะเท่านั้น เราสามารถฝึกได้ในชีวิตประจำวัน เช่น กินอย่างรู้รส โดยไม่ดูมือถือไปด้วย เดินโดยรู้จังหวะการก้าว ไม่เร่งรีบ อาบน้ำโดยรู้ถึงสัมผัสของน้ำและอุณหภูมิ เมื่อเราทำสิ่งเหล่านี้อย่างรู้ตัว นั่นคือการฝึกปรัตยาหาระเช่นกัน เพราะเรากำลัง “ดึงความสนใจจากสิ่งนอก” กลับมา “อยู่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายใน”
.
ในยุคที่ทุกอย่างหมุนเร็ว การฝึกปรัตยาหาระคือ ของขวัญที่เรามอบให้ตัวเองเพราะเมื่อใจได้พัก ประสาทได้พัก สมองจะเริ่มฟื้นฟู เราจะกลับมามีสมาธิ รู้สึกเบา และมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น
หลายคนเข้าใจว่า “การพัฒนา” ต้องมาจากการทำให้มากขึ้น แต่ในทางโยคะ “การเติบโตภายใน” มักเกิดขึ้นในช่วงที่เราหยุด… หยุดรับข้อมูลที่เกินจำเป็น หยุดตอบสนองต่อสิ่งเร้าทุกอย่าง หยุด…เพื่อฟังเสียงข้างใน
เมื่อเราฝึกปรัตยาหาระบ่อยขึ้น จะเริ่มรู้ว่าความสงบไม่ต้องรอให้ทุกอย่างรอบตัวเงียบ แต่คือการ “เงียบภายในใจเราเอง” และความนิ่งนั้น…จะกลายเป็นพลังแห่งสติ สมาธิ และปัญญาในขั้นต่อไปของโยคะ
.
ปรัตยาหาระจึงไม่ใช่เพียงการควบคุมประสาทสัมผัส แต่คือการ “เรียนรู้ที่จะอยู่กับโลก โดยไม่หลงไปกับมัน”
เมื่อเราเริ่มฟังลมหายใจมากกว่าเสียงภายนอก มองเห็นความรู้สึกในใจมากกว่าภาพบนหน้าจอ เราจะเริ่มสัมผัสได้ถึง “ความเงียบที่ยังมีชีวิต” อยู่ภายใน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการฝึกขั้นต่อไป — ธารณะ (Dharana) หรือการตั้งมั่นของจิต ซึ่งจะพาเราไปสู่สมาธิอย่างแท้จริง ในทุกครั้งที่คุณรู้สึกว่าชีวิตวุ่นวายเกินไป
อย่าลืมว่า…คุณไม่จำเป็นต้องหนีจากโลก เพียงแค่ “ดึงใจกลับมาภายใน” — คุณก็เริ่มต้นปรัตยาหาระได้แล้ว
.
ปรัตยาหาระ (Pratyahara) คือการดึงประสาทสัมผัสกลับสู่ภายใน เป็นขั้นที่ 5 ของโยคะ 8 ขั้น (Ashtanga Yoga) มีประโยชน์ต่อระบบประสาท สมาธิ และสุขภาพจิต ฝึกได้จากสิ่งง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น หายใจ ฟังลมหายใจ หรืออยู่กับสัมผัสตรงหน้า
“เมื่อเราดึงใจกลับสู่ภายใน โลกภายนอกก็ไม่อาจทำร้ายเราได้อีกต่อไป”
นี่คือสาระของปรัตยาหาระ — การกลับมาอยู่กับตัวเอง ด้วยความสงบ ลึก และมีชีวิต
ครูหลง
Renew studio
