บางครั้งอาจรู้สึกว่า ร่างกายมีความตึง ขยับไปทางไหน ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หรือทำไมบางทีออกกำลังกายแล้ว ก็ยังมีอาการปวดเมื่อย ตามกล้ามเนื้ออยู่บ่อย ๆ
.
และสิ่งที่หลายคน นึกถึงเป็นสิ่งแรก ๆ ก็มักจะเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
.
เพราะการยืดกล้ามเนื้ออย่างถูกต้องเหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีความสมดุล และรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
.
.
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ คือ การทำให้กล้ามเนื้อของเราคลายตัวจากความตึงเครียดที่สะสมไว้ ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้งานหนัก นั่งทำงานนานๆ หรือจากการออกกำลังกาย โดยการยืดเหยียดที่ถูกต้องจะช่วยฟื้นฟูสมรรถนะ เพิ่มองศาการเคลื่อนไหว และลดการบาดเจ็บได้
.
.
ประโยชน์ของการยืดกล้ามเนื้อ
.
-สมรรถนะร่างกายดีขึ้น เพราะการยืดกล้ามเนื้อจะช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น เคลื่อนไหวได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
.
-ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อจะช่วยลดอาการปวดเมื่อย และทำให้ท่าทางดีขึ้น มีสมดุลมากขึ้น
.
-เพิ่มเลือดและสารอาหารไปสู่เนื้อเยื่อ ช่วยให้กล้ามเนื้อได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เร็ว และลดอาการล้าหลังการออกกำลังกาย
.
-เพิ่มระยะและองศาของการเคลื่อนไหว ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำจะช่วยเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวให้ร่างกายของคุณ
.
.
ประเภทของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
.
การยืดกล้ามเนื้อมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและประโยชน์แตกต่างกันไป การเลือกใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมนั้น จะมีประโยชน์และช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
.
.
1.Static Stretching หรือ “การยืดแบบค้างท่า”
.
เป็นการยืดกล้ามเนื้อที่เราคุ้นเคยที่สุด โดยยืดกล้ามเนื้อไปจนถึงจุดที่รู้สึกตึง (แต่ไม่เจ็บ) แล้วค้างไว้ประมาณ 15-60 วินาที วิธีนี้พบได้มากในโยคะ และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย เพราะทำได้ง่าย ปลอดภัย และช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดความตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
.
2.Dynamic Stretching หรือ “การยืดแบบเคลื่อนไหว”
.
เป็นการยืดแบบเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เช่น แกว่งแขน แกว่งขา หรือการเดินยกเข่าสูง วิธีนี้เหมาะกับการเตรียมความพร้อมกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้พร้อมใช้งาน ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้ดี
.
.
3.Proprioceptive Neuromuscular Facilitation (PNF) Stretching หรือ “การยืดแบบกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อ” ที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ว เมื่อตอนก่อนหน้านี้
.
โดยเน้นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อคลายตัวผ่านระบบประสาท มีสองแบบคือ
.
-Autogenic inhibition: การเกร็งกล้ามเนื้อหนึ่ง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อนั้นๆ คลายตัวลง
.
-Reciprocal inhibition: การเกร็งกล้ามเนื้อหนึ่ง เพื่อให้กล้ามเนื้อคู่ตรงข้ามคลายตัวลง
.
การยืดแบบ PNF ต้องการความรู้ความเข้าใจในกลไกของกล้ามเนื้อ อาจเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานและประสบการณ์มาบ้างแล้ว หรือมีผู้เชี่ยวชาญช่วยฝึก



การยืดกล้ามเนื้อ ไม่ใช่เรื่องของการทำให้ร่างกาย “อ่อนย้วย” หรือการดึง ดัด ข้อต่อ ให้หลุดออกมาจากเบ้า แต่เป็นการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อให้สมดุล ไม่ควรเกินขีดจำกัดของร่างกาย ควรทำอย่างพอดีและสม่ำเสมอ ก็จะมีส่วนช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ครับ
.
ครูหลง😄
Renew Studio