ในโลกที่ทุกอย่างดูเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นงาน การเดินทาง หรือแม้แต่การออกกำลังกาย หลายคนเผลอพาตัวเองเข้าสู่โหมด “ต้องทำให้ทัน ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ดี” แม้แต่บนเสื่อโยคะ…
เราอาจเคยรู้สึกว่า ต้องทำท่าให้ลึก ต้องยืดให้ถึง ต้องเกร็ง ต้องเร็ว โดยลืมไปว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของโยคะ ไม่ใช่การแข่งขัน แต่คือการกลับมาฟังร่างกาย เข้าใจจิตใจ และอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง
การฝึกโยคะแบบ “Mindful Movement” หรือการฝึกโยคะอย่างมีสติ ที่ไม่เน้นความเร็ว หรือแรง แต่ลึกซึ้งกว่าในแง่ของ “ความรู้สึกตัว” และ “การเคลื่อนไหวอย่างเข้าใจ”
Mindful Movement ไม่ใช่แค่โยคะช้าๆ หรือโยคะเบาๆ แต่คือการเคลื่อนไหวโดยตั้งใจ ให้ความใส่ใจอยู่กับทุกจังหวะ ทั้งขณะเคลื่อนและขณะหยุดนิ่ง
ลองนึกภาพเรายกแขนขึ้นอย่างรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ความยืดของกล้ามเนื้อ ความมั่นคงของเท้า และจังหวะของลมหายใจ… ทุกการเคลื่อนไหวคือการสื่อสารกับร่างกาย ไม่ใช่แค่ทำตามท่าที่เห็นจากภายนอก
Mindful Movement มีหัวใจสำคัญ 3 อย่าง คือ
1.Awareness – ตระหนักรู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร รู้สึกอะไร
2.Intention – ตั้งใจในแต่ละการเคลื่อนไหว ไม่ใช่ทำแบบอัตโนมัติ
3.Compassion – ฝึกด้วยความเมตตาต่อตัวเอง ไม่ฝืน ไม่กดดัน สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนการฝึกโยคะธรรมดา ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเยียวยา เรียนรู้ และเติบโต
ลักษณะของการฝึกโยคะแบบ Mindful Movement
1.เคลื่อนไหวช้าลง เพื่อรู้สึกมากขึ้น
การเคลื่อนไหวช้าลง เราจะยิ่งสัมผัสถึงกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และลมหายใจได้ชัดเจนขึ้น เช่น การพับตัวลงช้าๆ จะทำให้เรารู้ว่าหลังตึงตรงไหน หายใจคล่องหรือเปล่า กล้ามเนื้อช่วยพยุงตัวหรือไม่
2.อยู่กับลมหายใจ
การฝึกแบบนี้จะเน้นการหายใจเข้าออกอย่างมีจังหวะ และใช้ลมหายใจเป็นตัวนำการเคลื่อนไหว เช่น ยืดแขนขึ้นพร้อมหายใจเข้า ก้มตัวพร้อมหายใจออก ลมหายใจจึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างร่างกายกับใจ
3.ฟังร่างกาย ไม่เร่งร่างกาย
ไม่มีคำว่า “ต้อง” ในการฝึกแบบ Mindful Movement เพราะแต่ละวันร่างกายไม่เหมือนกัน เราเรียนรู้ที่จะรับฟังว่า วันนี้เราทำได้แค่ไหน แค่ไหนที่รู้สึกดีกับตัวเอง
4.สังเกตภายใน มากกว่าภายนอก
บางครั้งอาจ จะตั้งคำถามว่า “ทำท่าได้ถูกหรือยัง?” เราเปลี่ยนเป็นถามว่า “ตอนนี้ร่างกายรู้สึกยังไง?” การฝึกจึงเป็นเรื่องของประสบการณ์ภายใน มากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก
5.ใช้ความรู้สึก มากกว่าความพยายาม
การฝึกแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงเกร็งหรือดันมากเกินไป แต่ใช้ความรู้สึกนำทาง เช่น การยืดเหยียดที่พอดี ไม่เจ็บ แต่รู้สึกตึงสบาย นั่นแหละคือการเข้าใจร่างกายอย่างแท้จริง
แม้การฝึกแบบนี้อาจดู “น้อย” ในแง่ของแรงกาย แต่จริงๆ แล้วกลับ “มาก” ในแง่ของแรงใจ และการเปลี่ยนแปลงลึกๆ ที่เกิดขึ้นภายใน
-ฟื้นฟูมากกว่าทำลาย
คนที่มีอาการเจ็บเข่า ปวดหลัง ไหล่ติด หรือเคยบาดเจ็บมาก่อน จะพบว่า Mindful Movement เป็นแนวทางที่ปลอดภัย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้จริง
– ลดความเครียด เพิ่มความสงบ
เมื่อฝึกอย่างมีสติ ระบบประสาทพาราซิมพาเธติกจะทำงาน ช่วยให้ใจสงบ คลายความเครียด เหมือนพาเรากลับมาบ้านหลังเดิม คือหัวใจของเราเอง
-เข้าใจตัวเองมากขึ้น
เราจะเริ่มเห็นว่า… วันที่เราร่างกายแข็งแรง กับวันที่เราอ่อนล้า มันแตกต่างกันแค่ไหน และนั่นทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองอย่างอ่อนโยน
– ฝึกไปได้ตลอดชีวิต
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร อยู่ในระดับไหนของการฝึก โยคะแบบ Mindful Movement คือแนวทางที่ฝึกได้เสมอ และฝึกได้ลึกขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเราช้าลง ใส่ใจมากขึ้น อยู่กับตัวเองมากขึ้น เราจะเริ่มรู้ว่า… เราไม่ได้ต้องการ “ฝึกให้ได้เหมือนใคร” แต่แค่ต้องการ “ได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง”
แล้วโยคะ… ก็จะไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่จะกลายเป็น “การกลับบ้าน”
แล้วคุณจะเข้าใจว่า “ความลึก” ที่แท้จริง… ไม่ใช่ความลึกของท่า แต่คือความลึกของใจ ที่ได้เชื่อมกับร่างกายอย่างแท้จริง
ครูหลง
Renew studio
