อายุที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเจ็บป่วยเสมอไป หลายคนเชื่อว่า พออายุเข้าสู่เลข 4 เลข 5 ก็ต้องเริ่มเตรียมใจรับความเสื่อมของร่างกายไว้ล่วงหน้า เจ็บเข่าบ้าง ปวดหลังบ้าง เดินไม่คล่อง หกล้มง่าย ความจำเริ่มถดถอย แต่จะดีไหม… ถ้าภาพนั้นไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับเราทุกคน?

สุขภาพดีในวันที่อายุมากขึ้น มาจากสิ่งที่เราทำเป็นประจำในทุกๆ วันต่างหาก และหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยยืด “ช่วงเวลาที่สุขภาพยังดีอยู่” หรือที่เรียกว่า healthspan ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือการฝึกโยคะ



เมื่อพูดถึงการชะลอความเสื่อมของร่างกาย เราควรให้ความสำคัญกับ 4 อย่างนี้เป็นพิเศษ ได้แก่ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, ความยืดหยุ่น, ความสมดุล, และ ความคล่องตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งทั้งหมดนี้… โยคะสามารถดูแลได้ครบถ้วน



1. เสริมกล้ามเนื้อ ป้องกันการฝ่อของร่างกาย

เมื่ออายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อจะลดลงโดยธรรมชาติ ทำให้ร่างกายอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก และเสี่ยงต่อการหกล้มมากขึ้น การฝึกโยคะ แม้จะไม่ได้ยกเวทหรือทำอย่างนักเพาะกาย แต่หลายๆ ท่าที่ใช้กล้ามเนื้อพยุงตัว เช่น Plank, Chair Pose หรือ Warrior ล้วนเป็นการฝึกกล้ามเนื้อโดยใช้ น้ำหนักตัวเอง (Bodyweight) ซึ่งปลอดภัยและเหมาะกับทุกวัย ฝึกสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อแข็งแรง ร่างกายก็มั่นคงขึ้น และฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้ไวขึ้นด้วย



2. เพิ่มความยืดหยุ่น ไม่ปล่อยให้ร่างกายแข็งตึง

ความยืดหยุ่นลดลง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของวัยที่หลายคนละเลย เช่น เอื้อมหยิบของแล้วรู้สึกตึง ก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าไม่สะดวก การฝึกโยคะจะช่วยเพิ่มระยะการเคลื่อนไหวของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหลัง ขา สะโพก หรือไหล่ ให้เคลื่อนไหวได้ในองศาที่ควรจะเป็น ยิ่งเราฝึกเป็นประจำ ร่างกายก็ยิ่งเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น ความตึงลดลง ความเจ็บปวดก็ลดลงเช่นกัน



3. พัฒนาการทรงตัว ลดความเสี่ยงในการหกล้ม

หลายคนไม่รู้ว่า การทรงตัวเป็นสิ่งที่ฝึกได้ และควรฝึกไว้ก่อนที่ระบบประสาทจะเริ่มเสื่อมไปเรื่อยๆ การฝึกท่าที่ต้องทรงตัว เช่น Tree Pose, Warrior III, หรือการลุก-นั่งช้าๆ อย่างมีสติ จะช่วยกระตุ้นระบบรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (proprioception) ให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น ช่วยการป้องกันการหกล้ม ซึ่งในผู้สูงอายุได้



4. ฝึกความว่องไวของร่างกายและจิตใจ

โยคะไม่ได้เป็นแค่การยืดเส้น หรือออกกำลังกายเบาๆ แต่เป็นการฝึก “สติ” ให้เราอยู่กับร่างกายขณะเคลื่อนไหว ผู้สูงวัยที่ฝึกโยคะมีการตอบสนองที่ว่องไวขึ้น ในวันที่ร่างกายต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น สะดุดพื้น หรือเจอสิ่งกีดขวาง ความสามารถในการตอบสนองไว อาจช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้



โยคะ กับสุขภาพที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (Healthspan vs Lifespan)

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Lifespan คือระยะเวลาทั้งหมดที่เรามีชีวิตอยู่ แต่ในปัจจุบัน เราให้ความสำคัญกับคำว่า Healthspan มากกว่า เพราะมันคือช่วงเวลาที่เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดี สามารถดูแลและพึ่งพาตัวเองได้ ไม่เจ็บป่วยหนัก และนี่คือเป้าหมายของการฝึกโยคะในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ยืดเหยียด แต่เพื่อให้เรายัง “ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ” ไปจนถึงวัยที่มากขึ้น

ผู้ฝึกโยคะหลายคนบอกว่า สุขภาพดีขึ้น อาการปวดเรื้อรังดีขึ้น แข็งแรงขึ้น หรือแม้กระทั่ง นอนหลับลึกขึ้น หลังฝึกโยคะ สิ่งเล็กๆ เหล่านี้…รวมกันกลายเป็นชีวิตที่มีคุณภาพในทุกวัน ที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

ครูหลง😄
Renew studio