
ถึงแม้ว่าเราจะนั่งอยู่นิ่ง ๆ แต่ความคิดก็มักจะพาเราไปข้างหน้า บางครั้งก็หวนกลับไปอดีต หรือจมอยู่กับความกังวลใจ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “การอยู่กับปัจจุบัน” แต่กลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ใจหยุดอยู่ตรงนี้ได้จริง ๆ คำตอบอาจจะเรียบง่ายกว่าที่คิด… ลมหายใจ
ลมหายใจของเราเกิดขึ้นตลอดเวลา ลมหายใจคือสิ่งที่อยู่กับเราเสมอ และเมื่อลองตั้งใจฟัง ลมหายใจนี่แหละ…ที่เป็นเครื่องมือของการกลับมาอยู่กับตัวเอง
.
ลมหายใจ ไม่ได้เป็นเพียงกลไกอัตโนมัติของร่างกายเท่านั้น แต่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง “ร่างกาย” กับ “จิตใจ” อย่างแท้จริง
.
ในทางกายภาพ ระบบหายใจของเราทำงานร่วมกับกล้ามเนื้อหลายมัด เช่น
-กล้ามเนื้อกระบังลม (Diaphragm): กล้ามเนื้อหลักของการหายใจเข้า
-กล้ามเนื้อซี่โครงภายในและภายนอก (Intercostals): ช่วยขยายและยุบทรวงอก
-กล้ามเนื้อช่วยหายใจอื่นๆ เช่น sternocleidomastoid, scalenes และ abdominal muscles
.
ส่วนในทางจิตใจ การหายใจสามารถเป็นตัวควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System) โดยตรง กล่าวคือ
-หายใจเร็ว ตื้น กระตุ้นระบบ sympathetic (ระบบเร่งรัด) เช่น ความเครียด ความกลัว
-หายใจช้า ลึก ต่อเนื่อง กระตุ้นระบบ parasympathetic (ระบบผ่อนคลาย) ช่วยให้สงบ เย็น และมั่นคง
ดังนั้นลมหายใจ จึงไม่ใช่แค่การนำออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย แต่เป็นกลไกที่ส่งผลต่อ อารมณ์, ความคิด, และ สมาธิ โดยตรง
.
ประโยชน์ของลมหายใจ
1.ลมหายใจช่วยปรับสมดุลร่างกาย การหายใจอย่างถูกต้องจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลือง ซึ่งมีบทบาทในการขจัดของเสียและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
2.ลมหายใจคือเครื่องมือจัดการอารมณ์ เมื่อเราหายใจช้าและลึก ร่างกายจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่า “ทุกอย่างปลอดภัย” สมองจึงลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่นคอร์ติซอล และช่วยให้เรากลับมารู้สึกสงบ การฝึกหายใจแบบช้า ลึก สามารถลดความวิตกกังวล ลดความดันโลหิต และปรับปรุงการทำงานของสมองส่วน prefrontal cortex (ส่วนที่ใช้ในการวางแผน ตัดสินใจ และควบคุมอารมณ์)
3.ลมหายใจคือเครื่องมือในการตั้งสติ หากเคยฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือแค่เงียบๆ อยู่กับตัวเอง จะพบว่าการกลับมาสังเกตลมหายใจ เป็นจุดเริ่มต้นของการอยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง เพียงแค่รับรู้ว่า “ฉันกำลังหายใจเข้า… ฉันกำลังหายใจออก…” ใจก็กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ในช่วงขณะหนึ่งแล้ว
ลมหายใจจึงไม่ใช่เพียงการเอาอากาศเข้าออกเท่านั้น แต่เป็น “เครื่องหมายแห่งการตื่นรู้” ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ ไม่ต้องเตรียมตัว แค่หายใจ อย่างรู้ตัว
4.ลมหายใจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในการฝึกโยคะ การประสานลมหายใจกับท่าอาสนะช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล ไม่ฝืน ไม่ต้าน และลดการบาดเจ็บ
ลมหายใจเข้า – ขยาย พอง เปิดรับ
ลมหายใจออก – ปล่อย คลาย ยอมรับ
บางครั้งเราอาจพยายามแสวงหาเครื่องมือจากภายนอก แต่ความสงบ ความเข้าใจ และคำตอบหลายอย่างในชีวิต กลับซ่อนอยู่ใน “ลมหายใจ”
.
ทุกครั้งที่เริ่มและจบคลาส ผมมักจะชวนเชิญทุกคน ให้หยุดนิ่งสักพัก
…แล้วหายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกถึงอากาศที่ไหลเข้าสู่จมูก รู้สึกถึงทรงอกและหน้าท้องที่ขยาย
…แล้วหายใจออกยาว ๆ อย่างนุ่มนวล รู้สึกถึงการคลายตัวของไหล่ คอ และความคิดที่ฟุ้งอยู่ ให้กลับมาสู่ที่นี่…ตอนนี้
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นเวลาที่ ได้นำจิตนำใจของเรากลับมาอยู่กับปัจจุบัน
.
ลมหายใจจะอยู่กับเราตั้งแต่เกิด…ไปจนถึงลมหายใจสุดท้าย เป็นเข็มทิศที่พาเรากลับบ้าน และเป็นเครื่องมือ ที่พาใจของเรากลับมา “อยู่กับปัจจุบัน”
ครูหลง![]()
Renew Studio
