กล้ามเนื้อ Tibialis มีบทบาทสำคัญ ในการเคลื่อนไหวและสร้างความมั่นคงของเท้า… เส้นใยกล้ามเนื้อที่เรียงตัวในทิศทางเดียวกัน ซึ่งช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวของเท้า มีบทบาทสำคัญในการยกฝ่าเท้าขึ้น (dorsiflexion) และการหมุนของเท้า (inversion)

กล้ามเนื้อ Tibialis อยู่บริเวณส่วนหน้าของกระดูกหน้าแข่ง โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่

-กล้ามเนื้อหน้าแข้งด้านหน้า (Tibialis anterior) ทำหน้าที่ในการกระดกเท้าขึ้นและบิดเข้าด้านใน ช่วยในเรื่องสร้างความมั่นคงในการทรงตัวระหว่างการเดินหรือวิ่ง

-กล้ามเนื้อหน้าแข้งด้านหลัง (Tibialis posterior) ซึ่งทำหน้าที่ในการถีบปลายเท้าลง และบิดข้อเท้าเข้าด้านใน มีความสำคัญในการช่วยพยุงอุ้งเท้าด้านใน คอยรักษาความมั่นคงของฝ่าเท้าในขณะเดินและวิ่ง โดยเฉพาะในขณะที่ฝ่าเท้าต้องรองรับน้ำหนักในท่าที่ต่างกัน

อาการบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้ง (Shin splints) เป็นอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ และเยื่อหุ้มกระดูกของกระดูกขาท่อนล่าง โดยจะมีอาการรู้สึกปวด จนส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจาก การเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนนี้ซ้ำ ๆ ใช้กำลังมาก ๆ หรือมีการกระแทก เช่น การวิ่ง เล่นฟุตบอล การเต้น เป็นต้น

อาการเจ็บปวดบริเวณหน้าแข้ง เป็นได้ทั้งด้านหน้า (anterior shin splints) และทางด้านใน (medial shin splints) อาการจะแสดงขณะเริ่มออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมที่ต้องลงน้ำหนัก เช่น การวิ่ง

เนื่องจากกล้ามเนื้อTibialis เกาะอยู่กับกระดูกหน้าแข้ง (Tibia) การทำงานซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อ ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออักเสบ (myositis) เอ็นอักเสบ (tendonitis) หรือเกิดแรงดึงไปถึงเยื่อหุ้มกระดูก (periosteum) ที่อยู่รอบกระดูกหน้าแข้ง เกิดเยื่อหุ้มกระดูกอักเสบ (periostitis) ทำให้มีอาการเจ็บบริเวณหน้าแข้งได้

ปัจจัยที่อาจจะทำให้มีอาการบาดเจ็บที่หน้าแข้งมีดังนี้

-การออกกำลังกายที่เข้มข้นเกินไป ผู้ที่ออกกำลังกายหรือเพิ่มระดับความเข้มข้นในการฝึกโดยทันที โดยไม่มีการวอร์มอัพที่เพียงพอ หรือการฝึกที่ไม่สม่ำเสมอ สามารถทำให้กล้ามเนื้อและเอ็นที่อยู่บริเวณหน้าขา ได้รับแรงกดทับมากเกินไป

-พื้นผิวที่ไม่เหมาะสม การวิ่งหรือออกกำลังกายบนพื้นผิวแข็ง เช่น ทางเดินคอนกรีตหรือพื้นสนามกีฬาแข็ง จะส่งผลให้เกิดแรงกระแทกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการ Shin Splint ได้ง่ายขึ้น

-รองเท้าและอุปกรณ์ การใช้รองเท้าที่ไม่ได้รองรับแรงกระแทกอย่างเพียงพอ หรือรองเท้าที่มีการสึกหรอ อาจทำให้การกระจายแรงจากการเดินหรือวิ่งไม่สมดุล เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเจ็บ

-โครงสร้างเท้า ผู้ที่มีฝ่าเท้าราบ หรือมีปัญหาในกระดูกเท้าอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด Shin Splint

ท่าโยคะที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อกลุ่มนี้

-ท่าพีรามิด (Parsvottanasana) เป็นท่าโยคะที่ใช้งานกล้ามเนื้อหน้าแข้ง(Tibialis) แบบ Concentric Contraction (หดตัวแบบสั้นลง)มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ (Tibialis) ในลักษณะของการหดตัว

-ท่าอูฐ (Ustrasana) เป็นท่าโยคะที่ใช้งานกล้ามเนื้อหน้าแข้ง(Tibialis) แบบ Eccentric Contraction (หดตัวแบบยืดออก) มีส่วนช่วยเพิ่มระยะการเคลื่อนไหวให้กล้ามเนื้อ

การฝึกโยคะอย่างเหมาะสม มีส่วนช่วยฟื้นฟู และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีอาการเจ็บได้

ครูหลง
Renew Studio